ประเทศไทยถูกมองว่าเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของการเล่นกอล์ฟที่ดีที่สุดในเอเชีย ซึ่งมีสนามกอล์ฟและรีสอร์ทกอล์ฟที่สวยงามกว่า 200 แห่งทั่วราชอาณาจักร ในจำนวนนี้มี 160 แห่งที่ดำเนินการโดยเอกชน และประมาณ 40 แห่งเป็นของภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ ธุรกิจกอล์ฟในประเทศไทยในปัจจุบันดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศจำนวนมาก เนื่องจากราคา กรีนฟีและบริการที่เกี่ยวข้องอื่นๆ มีราคาที่แข่งขันได้ เมื่อเปรียบเทียบกับธุรกิจอื่นๆ ในภูมิภาค ยกเว้นในเวียดนาม เมียนมาร์ หรือลาว การสำรวจล่าสุดพบว่านักกอล์ฟต่างชาติสนใจการเล่นกอล์ฟในประเทศไทยมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งภูเก็ตเป็นเจ้าภาพให้คนรักกอล์ฟมากกว่า 200,000 คนต่อปี ซึ่งสร้างรายได้ให้กับเกาะนี้มากกว่า 1 ถึง 2 พันล้านบาท การใช้จ่ายเฉลี่ยต่อนักกอล์ฟคาดว่าจะไม่ต่ำกว่า 4,000 บาทต่อวัน โดยมีตลาดเป้าหมายหลักในเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น ไต้หวัน เกาหลี สิงคโปร์ มาเลเซีย และยุโรป

โดยรวมแล้วธุรกิจสนามกอล์ฟในไทยมีแนวโน้มเติบโตประมาณ 10% เป็นผลจากกระแสความนิยมในการเล่นกอล์ฟของคนไทย โดยเฉพาะเมื่อมองว่าเป็นกิจกรรมครอบครัว การเล่นกอล์ฟในปัจจุบันจึงขยายความครอบคลุมตลาดให้ครอบคลุมทุกช่วงอายุตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้อาวุโส